เรื่องเล่าผี: วิญญาณในกระจก
วิญญาณในกระจก ตอนที่2
หลังจากการหายตัวไปของกลุ่มนักล่าผี ข่าวลือเกี่ยวกับบ้านร้างหลังนั้นแพร่สะพัดไปไกล ผู้คนเริ่มตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในคืนที่กระจกแตก บางคนบอกว่าพวกเขาอาจถูกดูดเข้าไปในกระจกเหมือนเมย์ บางคนเชื่อว่าวิญญาณในบ้านนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าจะถูกพิธีกรรมทำลาย
แต่ไม่มีใครกล้าพิสูจน์ จนกระทั่ง “เกด” นักข่าวที่ไม่เชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติ ตัดสินใจเข้าไปสำรวจเพราะต้องการเปิดโปงความจริง เธอพกกล้องถ่ายรูป สมุดจด และไฟฉาย พร้อมกับความมั่นใจว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่อธิบายไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์
เกดมาถึงบ้านร้างในยามค่ำคืน บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยเสียงใบไม้เสียดสีกับสายลมเย็น เธอเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง สายตากวาดมองห้องโถงเก่าที่เต็มไปด้วยฝุ่นและใยแมงมุม เมื่อมาถึงห้องใต้ดิน เธอพบร่องรอยของพิธีกรรมที่ยังคงอยู่—เทียนที่หลอมละลายและกระจกแตกกระจายเต็มพื้น
ทันใดนั้น เกดรู้สึกเหมือนมีใครบางคนจ้องมองจากมุมห้อง เธอเปิดไฟฉายส่องไป แต่ไม่พบอะไรเลย ทว่าขณะที่เธอถ่ายภาพห้องนั้น เธอก็สังเกตเห็นบางอย่างในภาพที่เพิ่งถ่าย—เงาร่างของคนหลายคนยืนอยู่รอบๆ ตัวเธอ แม้ว่าในความเป็นจริงจะไม่มีใครเลย
เกดเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย เธอรีบเก็บกล้องและเตรียมออกจากบ้าน แต่ก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นบันได เสียงกระซิบเบาๆ ดังมาจากด้านหลัง “อย่าทิ้งเราไว้…” เกดหันกลับไปและเห็นร่างเลือนรางของเมย์กำลังยืนอยู่ ร่างนั้นดูเหมือนจะสลายไปกับความมืด แต่สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าและความสิ้นหวัง
“เธอต้องการอะไร?” เกดตะโกนถาม เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย
เมย์ยกมือชี้ไปที่เศษกระจกบนพื้น เกดลังเล แต่เธอตัดสินใจหยิบเศษกระจกชิ้นหนึ่งขึ้นมา ทันใดนั้น ภาพเบื้องหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เธอพบว่าตัวเองยืนอยู่ในโลกอีกมิติหนึ่ง ทุกสิ่งรอบตัวเต็มไปด้วยความมืด มีเงาสีดำเคลื่อนไหวไปมา และเงาเหล่านั้นดูเหมือนจะจับจ้องมาที่เธอ
“ช่วยพวกเรา…” เสียงของเมย์ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เสียงเดียว เสียงของคนอื่นๆ ที่หายตัวไปในบ้านหลังนี้ก็ดังประสานกัน เกดเริ่มรู้สึกถึงแรงดึงที่พยายามจะดึงเธอเข้าไปในความมืด
เกดรวบรวมสติ เธอจำคำพูดของอาจารย์ทางจิตวิญญาณที่เคยสัมภาษณ์ได้ว่า “วัตถุต้องสาปสามารถถูกทำลายได้ด้วยการนำไปฝังในดินศักดิ์สิทธิ์” เธอตัดสินใจออกจากโลกมืดนั้นโดยจับเศษกระจกไว้แน่น
เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอกลับมาอยู่ในห้องใต้ดิน เกดไม่รอช้า รีบออกจากบ้านพร้อมกับเศษกระจกชิ้นนั้น เธอนำมันไปฝังที่วัดใกล้หมู่บ้าน และจัดพิธีปลดปล่อยวิญญาณร่วมกับพระสงฆ์
ในคืนนั้น บ้านร้างกลับสู่ความเงียบสงัด ไม่มีเงาดำ ไม่มีเสียงกระซิบ และไม่มีการหายตัวอีกต่อไป คนในหมู่บ้านเชื่อว่า เกดได้ปลดปล่อยวิญญาณทั้งหมดไปแล้ว
แต่สำหรับเกด เธอไม่เคยลืมดวงตาของเมย์ที่มองมาขอความช่วยเหลือ… หรือเสียงกระซิบสุดท้ายที่บอกว่า “ขอบคุณ” ในคืนที่เธอฝังกระจกชิ้นนั้น มันจะติดอยู่ในความทรงจำของเธอไปตลอดกาล


